วันนี้จะพาไปทำความรู้จักกับอาหารหรูที่สามารถพบเห็นได้จากในภัตตาคารหรือร้านอาหารแสนไฮโซ 5 เมนูด้วยกัน แต่เชื่อหรือไม่ว่า ในสมัยก่อนบรรดาผู้คนชนชั้นสูงทั้งหลายต่างมองว่าเป็นอาหารชั้นต่ำ! ต่ำอย่างไรเรามาดูกัน
เมนูที่ 1 กุ้งมังกร
แทบไม่น่าเชื่อว่าเจ้ากุ้งมังกรอาหารแสนแพงนั้น ในสมัยก่อนจะเป็นอาหารชั้นต่ำไปได้ ว่ากันว่า ครั้งหนึ่งในทวีปอเมริกาเหนือนั้นมีกุ้งมังกรอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เหล่าผู้คนต่างมองพวกมันเป็นส่วนเกิน ไม่มีค่า อีกทั้งยังเรียกกุ้งมังกรว่า “แมลงทะเล” จัดอยู่ในพวกเดียวกับแมงมุมยักษ์ ดังนั้นผู้คนจึงรังเกียจที่จะนำกุ้งชนิดนี้มาปรุงอาหาร จึงเอาไปทำเป็นปุ๋ยแทนโดยปริยาย อีกทั้งในสมัยนั้น ไก่ถือเป็นอาหารของชนชั้นสูง มากกว่าอาหารทะเล เมนูของคนจนจึงเต็มไปด้วยกุ้งมังกรนั่นเอง
เมนูที่ 2 หอยนางรม
สาหตุที่หอยนางรมแสนอร่อยนี้ถูกรังเกียจเดียดฉันท์นั้นมีหลายปัจจัย อย่างเช่น ชื่อเรียกของมัน เหมือนกันชื่อของเครื่องทรมาณนักโทษชนิดหนึ่งในยุโรป แต่สาเหตุสำคัญที่สุดที่โดนดูถูกว่าเป็นอาหารชั้นต่ำคือรูปร่างของหอยนางรมนั่นเอง เพราะรูปร่างของมัน….เหมือนอวัยวะเพศหญิงน่ะสิ ปัจจุบันหอยนางรมเป็นที่ต้องการของตลาดมาก แม้ว่าในบ้านเรา ราคายังจัดอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ แต่ในประเทศฝรั่งเศสถือว่าแพงมาก สงสัยพวกเขาคงลืมไปแล้วว่าเมื่อก่อนเคยดูถูกหอยนางรมเอาไว้ว่ายังไง…..
เมนูที่ 3 ฟัวกราส์ หรือ ตับห่าน
เมนูสุดหรูอย่างตับห่านกลายเป็นอาหารชั้นต่ำในสมัยก่อนได้อย่างไรนั้น ว่ากันว่า ต้นกำเนิดของตับห่านไม่ได้อยู่ที่ฝรั่งเศส แต่เป็นอิยิปต์โบราณเมื่อกษัตริย์เมืองสปาตาพระองค์หนึ่งเสด็จเยือนประเทศอิยิปต์โบราณ ทรงสนพระทัยวิธีการเลี้ยงห่านเพื่อขุนอาหารประเภทนี้ จึงนำกลับมาเผยแพร่ในยุโรป แต่ชาวไร่ชาวนาในยุคกลางของฝรั่งเศสนั้นสนใจการเลี้ยงหมูมากกว่าการเลี้ยงสัตว์ปีก ดังนั้นวิธีการเลี้ยงห่านและทำฟัวกราส์จึงตกเป็นของชาวยิวแทน ส่วนเหตุง่ายๆที่ฟัวกราส์หรือตับห่านถูกมองเป็นอาหารชั้นต่ำ เนื่องจากชาวยุโรปนั้นรังเกียจและดูถูกชาวยิว ข้าวของหรือแม้แต่อาหาร หากมันเป็นของชาวยิวก็โดนดูถูกหมดแหล่ะ…..แหม ลึกซึ้ง
เมนูที่ 4 โปเลนต้า
อาจไม่เคยได้ยินชื่อหรือคุ้นเคยกับอาหารชนิดนี้มากนัก ดังนั้นจึงของสรุปง่ายๆ ว่ามันคือ ข้าวโพดบด ใช้สำหรับทำซุป ขนม หรืออะไรได้หลายๆอย่าง ครั้งหนึ่งชาวอิตาลีตอนเหนือเคยดูถูกอาหารชนิดนี้ว่าจืดชืดไร้รสชาติ อีกทั้งรูปร่างยังน่าเกลียด สีเหลืองๆ ชวนแหวะ เหมือนอะไรสักอย่างที่ถูกขับออกมาจากร่างกาย (เดาออกไหมว่ามันคืออะไร) แต่ปัจจุบันอาหารชนิดนี้ เป็นที่นิยมและมีขายทั่วไปในอิตาลี เสียอย่างนั้น
เมนูสุดท้าย ซูชิ
จะเป็นไปได้อย่างไรที่เมนูเพื่อสุขภาพนี้จะกลายเป็นอาหารชั้นต่ำไปได้ แต่มันเป็นไปแล้ว จริงๆ ผู้คนที่ดูถูกซูชิ หาใช่คนญี่ปุ่นแต่อย่างใด กลับเป็นคนอเมริกันต่างหาก อย่างที่รู้กันว่าชาติตะวันตกไม่บริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก พวกเขาต่างมองว่าข้าวคือ ธัญพืช ดังนั้นจึงรับไม่ได้ที่จะมองเจ้าก้อนข้าวดองน้ำส้มสายชูและเนื้อปลาดิบๆนี่ว่าเป็นอาหาร ต้องใช้เวลานานทีเดียวกว่าอาหารญี่ปุ่นจะเป็นที่นิยมขึ้นมาได้ แถมยังมีประโยชน์ยิ่งกว่าอาหารฟาสฟูดของอเมริกาเสียอีก